วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553

IF CAUSE

IF CAUSE ประโยคเงื่อนไข

if สมมติ,เหตุการณ์ที่ยังไม่เกิด
cause วลี, ประดยคที่ไม่สมบูรณ์
Dependent cause ไม่สมบูรณ์ด้วยตนเอง อยู่โดดๆ ไม่ได้ ต้องเชื่อมโยงกับ Independent cause มักขึ้นต้นด้วย after, when, who, if เป็นต้น

Independent cause มีความสมบูรณ์ในตนเอง ประกอบด้วย ประธานและกริยา อยู่อิสระได้

ประโยค if cause เช่น
1. ถ้าฉันขึ้นรถเมล์ไม่ทันบ่ายนี้ ฉันก็จะเรียกรถแท็กซี่แทน
* ในประโยคนี้จะมี 2 ส่วน คือ
1. ส่วนที่เป็นเงื่อนไข (if cause)
2. ส่วนที่เป็นข้อความหลัก (main cause)
If I miss the bus thisafternoon, I will get a taxi. (catch โดยสาร) , (get taxi เป็นสำนวน)
ประโยค 1 เป็น dependent cause และเป็น main cause
ประโยคที่ 2 เป็น independent cause และเป็น if cause

1. present/real (possible) , modality
โครงสร้าง if+V1,will,can,may,should,must+V1.
เช่น - ถ้าฉันไม่เข้าใจเนื่อหา ฉันก็จะออกไปรายงานไม่ได้
If I don't understand the topic, I can't present in the class.

- ถ้าฉันเป็นลูกคนเดียว ฉันคงจะเหงามาก
If I were a single (only) child, I would be lonely.
2. present/unreal (impossible)
โครงสร้าง if+V2,would, could, should+V1
- ถ้าเธอสวยเธอคงเป็นนางงามไปนานแล้ว
If she were beautiful, she would be Miss Universe.

* were ใช้กับทุกประธาน


3. past/unreal (had+V3)
- ไม่มีใครบอกฉันเลยว่าคุณเข้าโรงพยาบาล ถ้าฉันรู้ ฉันไปเยี่ยมคุณแล้วล่ะ
No one told me that you were in hospital, If I had know, I would have visited you.

* ถ้าใส่ the hospital = ไปเยี่ยมผู้ป่วย
ถ้าใส่ in hospital= ไม่สบาย, นอนอยู่โรงพยาบาล
serious = จริงจัง ไม่ใช่เครียดค่ะ


ขอขอบพระคุณ อาจารย์อนิรุตนิ์ ชุมสวัสดิ์ อย่างสูงค่ะ

Aspects

Aspects

Aspects มุมมอง, การณ์ลักษณะมุมมอง,เหตุการณ์นั้นกำลังเกิดขึ้น, เสร็จสิ้น,เพิ่งเริ่มต้น, เกิดซ้าๆ
มี2 ลักษณะ ดังนี้
1. Progressive aspects
2. Perfective aspects
1.1.progressive aspects คำที่สังเกตได้ว่าเป็นลักษณะของ progressive aspects มักจะมีคำว่า กำลัง, อยู่ (เหตุการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่) Continunous tense เช่น
1.1.1. การกระทำหรือเหตุการณ์ที่ดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง
She was sleeping. (เมื่อวานหล่อนนอนหลับยาวอย่างต่อเนื่องเลย)
1.1.2. การกระทำที่เกิดขึ้นและจบลงอย่างรวดเร็วแต่เกิดขึ้นช้าๆ
The boy is hitting my dog with a stick. (เด็กผู้ชายตีสุนัขด้วยไม้) หรือเช่นเหตุการณ์ประท้วง แบบเสื้อแดงและเสื้อเหลือง
1.1.3. การกระทำที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์
I'm writing a book on Global Warming. (เขียนยังไม่เสร็จ)
1.1.4. การกระทำที่เกืดขึ้นชั่วคราว
She is living in London. เธออยู่ที่ลอนดอน (ไม่ได้อยู่ถาวร)
1.1.5. การกระทำที่เกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งได้มีการวางแผนไว้แล้ว พร้อมไว้เรียบร้อยแล้ว
She is flying to China tonight.

2.1.Perfect aspects เชื่อมโยงกับเหตุการณ์,เวลา,ภายหลัง

2.1.1.การกระทำที่เกิดขึ้นแล้ว เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ ,เวลา,ภายหลัง

The thief had run away when the police arrive.

โจรวิ่งหนีเมื่อตำรวจมาถึง

2.2.2. การกระทำที่เกิดขึ้นและยังดำเนินอยู่ในปัจจุบัน

We have lived in Japan since last year.

2.2.3. การกระทำที่เกิดขึ้นโดยไม่ระบุเวลาแน่ชัดแต่เกิดขึ้นอย่างน้อย 1 ครั้ง เช่น

I have been to India before. (ฉันเคยไปอินเดียมาแล้ว 1 ครั้ง)

I have gone to India before. (ฉันไปอินเดียมาแล้ว)

* been=ไปแล้วกลับมาแล้ว

* gone=ไปแล้วยังไม่กลับ

2.2.4. เกิดขึ้นแล้ว และยังส่งผลถึงปัจจุบัน

He have cut himself. มีดบาดมือแต่เลือดก็ยังไหลอยู่

I have eatten rice. ฉันกินข้าวแล้ว *ผลก็คือยังอ่มข้าวอยู่ค่ะ

1. ระหว่างที่รอพบหมอ ฉันอ่านนิตยสารจบไป 2 เล่ม

While I was waitting for seeing the doctor, I read two maxgazine.

2. ศักดิ์สูบบุหรี่มานาน 30 ปี แต่เขาเลิกสูบบุหรี่แล้วเมื่อ 2 ปีก่อน

Sak had been smorking for 30 years, but he gave up smorking 2 years ago.

3. คุณทำงานหนักมาตลอด ตอนนี้คุณควรจะพักบ้างได้แล้ว

You have been working hard. Now you should get rest. (get rest พักผ่อน=สำนวน)

4. ตอนที่ฉันเข้าไปในห้องนั่งเล่น สามีฉันกำลังดูข่าวอยู่

When I went into the living room, my husband wacthing news.

*Stop to smok หยุดเพื่อไปทำอีกครั้ง 1

5. ตอนที่ฉันเข้าไปในห้องนั่งเล่น สามีฉันดูข่าวเสร็จแล้ว

When I went into the living room, my husband had a already was the news.

ขอขอบพระคุณอาจารย์อนิรุตนิ์ ชุมสวัสดิ์ เป็นอย่างสูงค่ะ

วันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

Modality

Modality ทัศนะภาวะ

ทัศนะ (ความคิดเห็น,ความรู้สึก)
ภาวะ (สภาวะการณ์, เหตุการณ์ใดการณ์หนึ่ง)

Communicative Competences คือ สมรรถนะที่อยู่ในตัวตน

*1. Linguistics
2. Socialinguistics
*3. Discourse เหนือประโยค
4. Strategic/ pragmatic


* จะใช้มากในการแปล

การใช้ wish
wish to (สุภาพ)
want to (ไม่สุภาพ)
- I wish I know him. ผิด
- I wish I knew him. ถูก
ฉันว่าฉันน่าจะรู้จักเขา

* คำบางคำมีความหมายเหมือนกัน แต่ต้องเลือกใช้ให้ถูกและเหมาะสม

perhaps
may
may be
robaly
likely
มีความหมายว่า "อาจจะ" เหมือนกันทั้งหมด

1. Your sisters can speak English well. can สามารถ

พี่สาวของเธอพูดภาษาอังกฤษได้ดี
2. The temperaure can sometimes reach 40 celsius. can อาจ,อาจจะ,บ่งบอกถึงความน่าจะเป็น

บางครั้งอุณหภูมิอาจสูงถึง 40 องศาในเดือนเมษายน
3. You can take my car. can อนุญาต
เธอเอารถฉันไปก็ได้
4. Can you pass me the salt ? can ขอร้อง
ช่วยส่งขวดเกลือให้ฉันหน่อยได้ไหมครับ
5. He can run very fast. can บอกถึงเวลาปัจจุบัน
เขาวิ่งได้เร็วมาก
6. When he was young, he could run very fast. could บอกถึงความสามารถในตอนอดีต
ตอนที่เขายังเป็นเด็ก เขาวิ่งได้เร็วมาก
Can you turn on the light ?
* Could you turn on the light ?
การใช้ could จะสุภาพกว่า can
ขอขอบพระคุณ อาจารย์อนิรุตนิ์ ชุมสวัสดิ์ ค่ะ